ให้ศึกษาองค์กรธุรกิจที่ประสบความสาเร็จในการจัดการความรู้ โดยศึกษาในหัวข้อต่อไปนี้

ให้ศึกษาองค์กรธุรกิจที่ประสบความสาเร็จในการจัดการความรู้ โดยศึกษาในหัวข้อต่อไปนี้

1. วิสัยทัศน์/พันธิกิจ จุดอ่อนและจุดแข็ง

วิสัยทัศน์ (Vision)
การเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารครบวงจรและมุ่งตอบสนองต่อลูกค้าเป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการหนึ่งเดียวของประเทศที่ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน ระบบสื่อสารไร้สาย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และผลิตภัณฑ์และบริการด้านเนื้อหาต่างๆอย่างหลากหลาย
พันธะกิจ (Mission)
แนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งประกอบด้วย
เชื่อถือได้
– เราซื่อตรงและให้เกียรติทุกคนและร่วมกันทำงานเพื่อความสำเร็จร่วมกัน
– เราสื่อสารอย่างซื่อตรงและเน้นถึงประโยชน์ของบริษัทเป็นสำคัญ
– เราพยายามทำในสิ่งที่เหมาะที่ควรเพื่อลูกค้าของเรา
– เราพร้อมจะตัดสินใจและรับผิดชอบในการกระทำของเรา
สร้างสรรค์
– เราพยายามเสาะหาแนวคิดใหม่ๆ และวิธีการใหม่ๆ ซึ่งจะนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์และบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ
– เราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการทำงานร่วมกัน
– เราทำงานด้วยความท้าทายซึ่งทำให้ธุรกิจของเราพัฒนาไปสู่ความก้าวหน้าเหนือผู้อื่น
เอาใจใส่
– เราเชื่อมั่นว่าพนักงานของเราคือสินทรัพย์ที่มีค่ายิ่งของบริษัท
– เราตั้งใจจะทำงานร่วมกันด้วยความสามัคคีและมอบสิ่งที่ถูกที่ควรให้กับลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และคู่ค้าของเรา
– เราปฏิบัติต่อผู้อื่นในลักษณะเดียวกับที่เราอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา
– เรายอมรับผลงานและยินดีในความสำเร็จของกันและกัน
– เราสร้างสัมพันธภาพที่ยั่งยืนกับคู่ค้าของเรา
กล้าคิดกล้าทำ
– เรามีความปรารถนาที่แน่วแน่เพื่อพัฒนาบริษัทของเราและเป็นผู้นำในตลาดการค้า
– เราปฏิบัติงานด้วยความเด็ดเดี่ยว ประเมินความเสี่ยงอย่างสุขุมและเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
– เราตระหนักดีว่าโอกาสเกิดจากความรับผิดชอบและความรู้สึกเป็นเจ้าของในงานนั้นๆ

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันว่า “ทรู” เป็นผู้นำในการให้บริการสื่อสารครบวงจร และเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารรายใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปัจจัยแห่งความสำเร็จอย่างหนึ่งของ ทรู คือ ความพึงพอใจของลูกค้า ดังนั้นการให้บริการที่ดีเลิศต่อลูกค้าจึงมีความสำคัญต่อ ทรู เป็นอย่างมาก ทรู จึงจัดทำ โครงการจัดการความรู้ในส่วนสายงาน Customer Management เพื่อ สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าและพัฒนาการดำเนินงานรวมทั้งศักยภาพการแข่งขันขององค์การโดยใช้รูปแบบการจัดการความรู้

จุดอ่อนและจุดแข็ง

การวิเคราะห์สถานการณ์ภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร
1. การเมืองไทย
ท่ามกลางอุณหภูมิการเมือง ที่ภาคประชาชนและเครือข่ายนักวิชาการ ตลอดจนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังเดินหน้าประกาศจัดกิจกรรมและขึ้นเวทีชุมนุม เพื่อเรียกร้องให้นายกฯทักษิณ “วางมือการเมือง” โดยการขับเคลื่อนมีต่อเนื่อง ในขณะที่พรรคไทยรักไทยและคนในรัฐบาล ต่างยกเอา “การเลือกตั้ง” และให้ประชาชนเป็นฝ่ายตัดสินว่าจะให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำงานการเมืองต่อไปหรือไม่ แต่ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คนในไทยรักไทยต่างอึดอัด ไม่รู้ว่าหัวหน้าพรรคจะตัดสินใจอย่างไร เพราะเมื่อถูกสื่อจี้ถามก็บอกว่าแล้วจะมีคำตอบเร็วๆ

2. เศรษฐกิจ ขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือค่ายเอกชน ทั้ง บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ต่างเร่งออกแคมเปญมารับอนาคตการประกาศใช้อัตราค่าเชื่อมโครงข่าย (อินเตอร์คอนเน็คชั่น ชาร์จ หรือไอซี) ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. วานนี้ (5) เอไอเอสออกมาบอกว่า กำลังเริ่มต้นตอกย้ำแบรนด์อีกครั้ง หลังผ่านสงครามราคาอันหนักหน่วงช่วงกลางๆ ปีมาแล้ว

3. สังคมและวัฒนธรรม ปัจจุบันสภาพทางสังคมของไทยได้เปลี่ยนไปมากมีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทำให้ผู้คนสบายขึ้นทั้งในเรื่องของการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน การศึกษา การติดต่อสื่อสาร

4.เทคโนโลยี ในช่วงปีที่ผ่านมากระแสเกี่ยวกับการใช้งานระบบโทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตนั้นไดเข้ามามีบทบาทในการดำเนินงานของธุรกิจหรือองค์กร ในชื่อต่างๆกัน เช่น Internet Telephony, IP Telephony, VoIP ( Voice over IP ) , VoWLAN ( Voice over Wireless LAN ) , VoBB ( Voice over Broadband ) และ IP PBX แต่มีลักษณะการทำงานและมาตรฐานที่แตกต่างกัน

วิเคราะห์สถานการณ์ภายในองค์กร
1. สถานการณ์ทางด้านการตลาด
ทรูมูฟเปิดแผยไตรมาส 4 เน้นรักษาฐานลูกค้า และทำตลาดแบบไลฟ์สไตล์ตามนโยบายคอนเวอร์เจนท์ ด้วยการการออกแคมเปญชิงเงิน 100 ล้านบาท หวังใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจลูกค้า หลังไตรมาส 3 ลูกค้าใหม่ไหลเข้าสูงถึง 2.65 ล้านราย

2. ผลประกอบการ
ทรูมูฟโชว์สุดยอดผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2550 ยอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็น 9.1 ล้านราย รายได้เติบโตกว่า 75%กรุงเทพฯ 22 สิงหาคม 2550 –ทรูมูฟ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น โชว์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ประจำปี 2550

2.กลยุทธ์ของการจัดการความรู้/แนวทางการจัดการความรู้

เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีบทบาทต่อการจัดการความรู้คือ

· KM web

· E-card

· E-book

· E-Learning

· E-mail

ในส่วนของบล็อก (Blog หรือ Web log) เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนความรู้ หรือประสบกราณ์ ผ่านพื้นที่เสมือน (Cyber Space) โดยผู้ที่สนใจจะเผยแพร่ความรู้ต่างๆ ตลอดจนประสบกราณ์จะสามารถเผยแพร่เนื้อหาและข้อความผ่านทางบล็อกได้ ขณะเดียวกันนั้นผู้ที่เข้าไปอ่านเนื้อหาและข้อความภายในบล็อกนั้นก็สามารถออกความคิดเห็นต่างๆ ได้เช่นกัน จึงทำให้หลายๆ คนนั้นสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความรู้สึกนึกคิด รวมไปถึงความรู้ต่างๆ ผ่านทางบล็อกได้

3. ขอบเขตและเป้าหมายการจัดการความรู้

ป้าหมาย (Goal) ของการจัดการความรู้ คือ “TRUE KM is aim to be a center of corporate information and establishing ture knowledge sharing community”

     เป้าหมายของบริษัททรู คือ เป็นศูนย์กลางของความรู้ ทุกคนในบริษัทสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ได้ง่ายและสะดวก พนักงานสามารถใช้ประโยชน์และเพิ่มความรู้ให้กับตนเองได้จากเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ที่มีอยู่ในบริษัท ซึ่งจะส่งผลให้การทำงานของพนักงานต่างๆ ในบริษัทมีศักยภาพในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้การให้บริหารแก่ลูกค้านั้นมีประสิทธิภาพที่ดี สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ

4.ขั้นตอนการจัดการความรู้/กระบวนการจัดการความรู้

วิธีดำเนินงาน 6 ขั้นตอน ดังนี้

     1. Culture Change: การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการปรับวิธีคิด ทัศนคติ และพฤติกรรมของคนในองค์กรให้ไปในทิศทางเดียวกัน

     2. Communication: การติดต่อสื่อสาร โดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้พนักงานสามารถติดต่อสื่อสาร และแลกเปลี่ยนกันได้สะดวก

     3. Process and Tool: กระบวนการทำงานและเครื่องมือ มีการทำงานที่เป็นกระบวนการอย่างชัดเจน และมีเครื่องมือที่ทันสมัย

     4. Training / Leaning: การอบรมและการเรียนรู้ ซึ่งจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ทั้งทางตรงทั้งผู้ให้และผู้รับ และเกิดการไหลเวียนความรู้ขึ้น

      5. Measurements: ตัวชี้วัด เพื่อประเมินความสำเร็จและความผิดพลาดของโครงการเพื่อพัฒนาโครงดารให้ดีขึ้น

     6. Recognition and Rewards: การยอมรับและให้รางวัล เพื่อเป็นการกระตุ้น ผลักดัน และส่งเสริมให้โครงการไปถึงเปาหมาย

5. ความสำเร็จที่ได้รับ/ผลที่ได้รับ

1.       สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า

2.       พัฒนาการดำเนินงานและการประกอบธุรกิจของบริษัทให้ดีขึ้น

3.       เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

จากวัตถุประสงค์ข้างต้นจึงได้จัดโครงการการจัดการความรู้ในส่วนของสายงาน(Customer Management) ซึ่งมีกระบวนการ ดังนี้

–          จัดเก็บ

–          รวบรวม

–          แลกเปลี่ยนเรียนรู้

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

http://www.learners.in.th/blogs/posts/21655?locale=en

http://romsaiplus.blogspot.com/2008/09/13.html

http://www.9ddn.com/home/index.php?option=com_content&view=article&id=431:swot—–&catid=41:swot&Itemid=128

สาเหุตที่ทำธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ

สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้าบางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น ขาดรายละเอียดทั้งในเรื่องของวัสดุ การใช้งาน และข้อมูลต่างๆที่ ลูกค้าต้องการเพิ่ม ที่สำคัญ นโยบายรับคืนสินค้า หลายเว็บไซต์มักเกรงปัญหาของคืน จึงไม่ได้ใส่เงื่อนไขสำคัญนี้ในเว็บของตน หรือบางเว็บไซต์ก็ใส่ข้อมูลที่เยอะมากเกินไป กว่าลูกค้าจะคลิกเข้าไปซื้อของได้ก็เสียเวลาเปิดเข้าไปในแต่ละหน้านานมาก

2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้ หรือขาดความรู้ในการเข้าถึงเทคโนโลยีมีผู้ประกอบการหลายราย เปิดเว็บไซต์แล้ว ไม่ได้ตรวจอีเมล์ หรือตอบช้าเกินไป

3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ หลายเว็บเกิดขึ้นมาแบบขาดการวางแผน เห็นธุรกิจอื่นมีเว็บกัน ก็แค่อยากมีกับเขาบ้าง

4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ

5. หลงเทคโนโลยี การสร้างเว็บไซต์ บางครั้งผู้ประกอบการมักหลงใหลกับความงามของกราฟฟิก ใส่ภาพเคลื่อนไหว เสียงประกอบต่างๆ เข้าไป เพื่อหวังจะเรียกร้องความสนใจของผู้เข้าชม โดยลืมไปว่าสิ่งเหล่านี้ต้องทำให้ผู้ซื้อสินค้าเสียเวลาโหลดนานมากกว่าที่จะ ได้ดูสินค้าแต่ละหน้า

6. ไม่กำหนดตลาด การที่อินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงคนได้ทั่วโลก ทำให้ผู้ค้าบางรายหวังขายสินค้าไปทั่วโลก ทั้งที่ในโลกการค้า ลักษณะการใช้ภาษาก็ดี, รูปแบบ, ราคาของสินค้าก็ดี ล้วนมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้น เมื่อได้ข้อมูลความต้องการของลูกค้าที่ชัดเจนแล้ว ควรมุ่งเน้นไปยังตลาดกลุ่มเป้าหมาย ดีกว่าการทำตลาดแบบเหวี่ยงแห ซึ่งนอกจากเสียเวลาแล้ว ยังอาจเสียลูกค้าโดยไม่รู้ตัว เช่น หากจะขายเครื่องประดับราคาสูงแล้ว ก็ต้องไม่มีการขายตุ้มหู คู่ละ เหรียญอยู่ในเว็บ เป็นต้น

7. การออกแบบ การออกแบบเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ควรออกแบบให้ผู้ใช้ เข้าใจได้ง่าย โดยไม่ต้องมีคู่มือประกอบ สามารถค้นหาสินค้าได้สะดวก และชำระเงินได้โดยง่าย บางเว็บไซต์ ผู้ซื้อต้องกรอกข้อมูลมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และรู้สึกว่าใช้งานลำบาก

……………………………………………………………………………………………………………….

ปัจจัยที่ทำให้ E-commerce ประสบความสำเร็จ

1.      กล้าตัดสินใจ ประการแรกที่ต้องทำคือ ค้นคว้าหาข้อมูล สร้างจินตนาการ  กลั่นกรอง ความคิด หาช่องทางและโอกาสเมื่อมองเห็น จงกล้าตัดสินใจดำเนินการ เพราะธุรกิจนี้ ใช้เงินน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเปิดร้านขายสินค้าในห้างสรรพสินค้า หรือตึกแถว    ทั่วไป

2.       โปรแกรมด้าน E-commerce มีความพร้อมให้ใช้งานอยู่แล้วสำหรับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น มีให้ใช้โดยทั่วไปอยู่แล้ว เช่น http://www.ecombot.com ซึ่งมีระบบครบถ้วนสมบูรณ์อยู่แล้ว ทั้งหน้าร้าน หรือออกแบบเว็บเพจให้มี ระบบออนไลน์แคตาล็อค ระบบตระกร้า หรือ Shopping Cart ระบบรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตแบบ Real-time ระบบติดตามผลการขาย ระบบออกรายงานขาย ระบบลงทะเบียน Search Engines เป็นต้น ฉะนั้น หน้าที่ของท่านก็เพียงแต่นำเอาข้อมูลสินค้า ราคา รูปภาพที่เตรียมไว้แล้ว ป้อนเข้าสู่ระบบเท่านั้น ก็สามารถเปิดใช้งานไดทันที

3.       ใช้งบประมาณลงทุนน้อย  เงินลงทุนที่ใช้เพียงค่าสมาชิกอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ โมเด็ม และค่าโปรแกรม E-commerce นอกจากนี้ยังมีการซื้อโปรแกรมระบบ E-commerce ในอัตราเดือนละ ไม่ถึง 500 บาท ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

4.       เร่งงานให้เสร็จตามกำหนด เวลา ในการลงมือทำงานแล้ว สิ่งสำคัญต้องเร่งทำเดินงานให้เสร็จทันตามเวลา ไม่ควรเรื่องมาก หรือเขียนคิ้วทาปากให้กับเว็บ ทำการทดสอบสินค้า และราคาก่อน เพราะสาระสำคัญทางการค้ายังมีเรื่องที่ต้องทดสอบอีกมาก และก็ไม่มีใครสนใจความสวยงามของเว็บท่านมากนัก เพราะเขามาซื้อสินค้าไม่ใช้มาซื้อเว็บของท่าน อย่าลืม “เรียบง่าย ดูดี น่าเชื่อถือ” เป็นสำคัญ

SO LO MOและZMOT กับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์

SO LO MO” Social Media Location
So ย่อมาจากคำว่า Social คือ สังคม แต่ไม่ใช่สังคมทั่วไปแต่มันเป็นสังคมออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันที่โด่งดังคือ Facebook , Twitter ณ วันนี้ มีคนใช้งานทั่วโลกแล้วมากกว่า 2 พันล้าน
Lo ย่อมาจากคำว่า Location แปลว่า สถานที่ สถานที่ในที่นี้หมายถึงอะไร หมายถึง Google Mapตอนนี้หลายเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ บริษัท หรือแม้แต่เว็บไซต์ส่วนตัวได้มีการใช้งานApplication ที่ชื่อว่า Google Map เข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจการเลือกซื้อสินค้าหรือทัวร์ต่าง ๆ เช่นการปักหมุดร้านค้า หรือ สถานที่ท่องเที่ยวของเจ้าของเว็บไซต์หรือทัวร์ต่าง ๆ
Mo ย่อมาจากคำว่า Mobile ในที่นี้ไม่ใช่แค่โทรศัพท์มือถือธรรมดา แต่เป็น SmartPhone , iPhone , Tablet ต่าง ๆ ที่ได้ถูกพัฒนา Application บนมือถือเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดออนไลน์ในอนาคต ถ้าสังเกตดีดี บนรถไฟฟ้าหรือตามสถานที่ต่าง ๆ จะมีคนใช้โทรศัพท์กันมากขึ้นแต่ไม่ใช่โทรศัพท์คุย แต่เป็นในลักษณะเลื่อนหน้าจอเพื่อค้นหาข้อมูล อัพเดทสถานะหรือแม้แต่พูดคุยกับเพื่อนออนไลน์
เราจะเห็นได้ว่าอัตราการเติบโตบนโลกอินเทอร์เน็ตมีมากขึ้นทุกวัน ทั้งจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกและจำนวนผู้ที่เข้ามาใช้ Application ต่างๆ ผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้มากขึ้น เพราะผู้ประกอบการรวมถึงเจ้าของบริษัทห้างร้านต่างๆ จะต้องพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นหน้าเว็บไซต์ของตัวเองปรากฏอยู่ในมือของผู้บริโภคให้มากที่สุด และยิ่งมากเท่าไหร่โอกาสที่จะได้เขามาเป็นลูกค้าของเราก็มากขึ้นเท่านั้น

ZMOT
ZMOT  ย่อมาจาก Zero Moment of Truth หมายถึง  เจ้าของหรือลูกค้าที่ทำความรู้จักหรือได้ลองใช้สินค้านั้นๆ แล้วนำสรรพคุณมาบอกหรือโพสต์ในเว็บไซต์เพื่อเป็นการโฆษณาให้ผู้ที่สนใจได้ลองเข้ามาดูสินค้านั้นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อทางเว็บไซต์หรือไปที่ร้านค้าจริง แรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดZMOT คือ การเติบโตของโลก Social Network และเครื่องมือที่ใช้เชื่อมต่ออย่าง SmartPhone ซึ่งจะมี

4 Online Business with Google

สรุปจากการฟัง

4 Online Business with Google

ไม่ใช้เน้น Sme อย่างเดียว

Sme ในเมืองไทยเข้ามาใช้ออนไลน์อย่างไร

เช่น ร้านขาย ของ อธิชาติ อยู่ที่ภูเก็ต งานโอท็อป และมีคนสนใจสินค้านี้เยอะแต่ ไม่มีหน้าร้าน ทั้งที่สินค้าน่าสนใจแต่สินค้าอยู่ใกล้ลูกค้าเกินไป

ในส่วนของผู้บริโภคมี เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการค้นหาข้อมูล โดยใช้ Keyword เช่น ลูกค้าต้องการซื้อของ ของผู้ประกอบการแต่ มี ผู้ประกอบการบางรายหรือ 1 ใน 10 ใช้เทคโนโลยีในการขายสินค้า ทำให้ลูกค้าที่ค้นหาสินค้า หรือใช้  Keyword  หาสินค้าไม่เจอ โอกาสที่จะขายสินค้า จะลดน้อยลง

โครงการธุรกิจไทยออนไลน์

“Think with Google” เป็นหนึ่งในโครงการของ Google ที่จะนำเรื่องราวในแวดวงธุรกิจออนไลน์และเทรนด์ต่างๆ มาเผยแพร่ให้บุคคลภายนอกได้ศึกษากัน ไม่ว่าจะเป็นบทสัมภาษณ์ของผู้นำทางความคิด นำเสนอกรณีศึกษา หรือข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจเพื่อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการในการวางแผนธุรกิจ

จริงๆ วันนี้สิ่งที่จะเล่าไม่ได้เกี่ยวกับ Think with Google หรอกค่ะ แต่เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ ถูกนำมาเผยแพร่ในนี้มีชื่อว่า “ZMOT หรือ Zero Moment of Truth” คำนี้อาจไม่คุ้นหูในบ้านเราเสียเท่าไหร่นัก และหลายคนก็อาจสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่น ดังนั้นขอเล่านิยามความหมายของช่วงเวลาต่างๆ ออกมาตามประสบการณ์ของลูกค้าก่อน ดังต่อไปนี้

*ทำอย่างไงให้ google ให้คะแนนเยอะ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ดี*

–     การเลือกใช้Keyword  คำที่เราเน้นเป็นพิเศษ ให้สอดคล้องธุรกิจของตน

–                   Google จะไม่รับเงินให้เว็บอยู่ในตำแหน่งที่ดี

ถูกค้นพบได้อย่างไร   เช่น คลิกเว็บไซต์ อ่านข่าว อ่านบ็อก แอสเวร์ดจะปรากฏอยู่ในเว็บ ส่วนที่เป็นเนื้อหาของโฆษณาจะปรากฏขึ้นด้วย

ปรากฏตัวด้วยโฆษณาอย่างเดียวไม่ได้

ต้องปรากฏบนแผนที่ google เพื่อให้ชื่อสินค้าอยู่บนแผนที่ google

เข้าไปที่  ฟรี  maps.google.com

 

 

ใส่ชื่อสินค้า , ราคา , ตั้งอยู่ที่ไหน

Get  real conversations with your customers

 ทำอย่างไรให้ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น”

พูดคุยกับลูกค้าให้เหมือนจริง โดย Hangouts

–                   สามารถเห็นหน้าได้ , คุยได้ , ประชุมกับสาขาต่างๆ ได้

–                   ดึงเอกสารที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ดูพร้อมกันได้

–                   เสนอราคา สินค้า สะดวกรวดเร็ว  (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

Cotto ที่นำไปใช้

Google.ไทยแลน โดยใช้ google + Hangouts มาใช้ในการ ประชุมออนไลน์  แชท และแชร์ ได้พร้อมกัน ขอให้มีอินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ ก็สามารถนำมาใช้งานได้

 

Increase your performance

“การวัตรผลการตลาด รายงานแบบรายละเอียด”

เข้าไปที่เว็บ gnalytics.google.com (ฟรี)

 

Engage your cutomer Anywhere anyt

“การค้นหาบนมือถือก็เห็นโฆษณาได้”

Go global (AEC)

–                   ชื่อของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์

–                   เลือกประเทศเพื่อเปรียบเทียบ

–                   ดูปริมาณการค้นหาของแต่ละประเทศในข่าวสารแต่ละปี

Google .ใช้แปลภาษา ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป

สรุป

                ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องมือที่นำไปประยุกต์ใช้งานกับการทำธุรกิจและเพื่อต่อยอดธุรกิจ ในโลกออนไลน์

………………………………………………………………………………………………………………………………….

4 Online Business with Google

คำศัพท์

  1. Business หมายถึง  ธุรกิจ  กิจกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการผลิตสินค้าและบริการโดยมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันและมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการประโยชน์หรือกำไรจากการกระทำกิจกรรมนั้น
  2.  Keywordหมายถึง คำที่เราเน้นเป็นพิเศษ อาจจะเน้นคำเหล่านั้นด้วย การใช้ลิงค์ Link Tag
  3. Fmotหรือ First Moment of Truth  หมายถึง เป็นคำที่ถูกนิยามไว้ตั้งแต่ปี 2005 โดย Procter & Gamble (P&G) ว่าเป็นชั่วขณะที่ผู้ซื้อมีปฏิสัมพันธ์กับหน้าร้านและเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจซื้อ
  4. Smot หรือ Second Moment of Truth หมายถึง  เป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้ว และมีประสบการณ์ในการใช้งานสินค้าดังกล่าว เค้าเหล่านั้นอาจจะมาเขียนรีวิวแบ่งปันข้อมูลบนเว็บไซต์ก็เป็นได้
  5. Conversation หมายถึง การสนทนา การคุยกัน, การคบค้าสมาคม, ความสามารถในการสังคมกับคนอื่น,ลักษณะการครองชีพ
  6.  Increase หมายถึงการเพิ่มขึ้น,จำนวนที่เพิ่มขึ้น
  7. Performance หมายถึง ผลงานที่เกิดจากการกระทำ
  8. Go global หมายถึง เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานแอพลิเคชั่นจากคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
  9. Social Media หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่า เนื้อหา เรื่องราว ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวิดีโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตน ผ่านทางเว็บไซต์
  10.  Social Networkหมายถึง ที่ให้บริการบนโลกออนไลน์  ปัจจุบัน การสื่อสารแบบนี้ จะทำผ่านทาง Internet และโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
  11. Stimulus หมายถึง สัญญาณหรือการเปลี่ยนแปลงซึ่งมีผลต่อกิจกรรมของสิ่งมีชีวิต
  12. Information Age หมายถึง  เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น โดยเฉพาะด้านธุรกิจ
  13. Online Marketing หมายถึง การตลาดที่มีการนำเอาอินเตอร์เน็ตเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกว่า การทำการตลาดแบบออนไลน์
  14. Search Engine Marketing (SEM) หมายถึง อินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งรวมข้อมูล และความรู้ขนาดใหญ่ที่สุด และกำลังได้รับความนิยมมากในการใช้งานปัจจุบัน และเนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่มากมายมหาศาลในอินเตอร์เน็ตนั้น ทำให้บางครั้งผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้
  15. Ave. Time on Site หมายถึง เวลาเฉลี่ยที่อยู่บนเว็บไซต์ของเรา
  16. Bounce Rate หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของคนเข้าเว็บ และออกไปเลย (ไม่สนใจในเว็บของเรา) ยิ่งเปอร์เซ็นต์สูง ยิ่งไม่ดี
  17. Google Analytics หมายถึง ตัวเก็บสถิติเกี่ยวกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ พฤติกรรมของคนที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซด์ รวมทั้งติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญการโฆษณา
  18. Content คือ เนื้อหาภายในเว็บไซต์
  19. Pagerank (PR) หมายถึง ค่าที่ทาง google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ของเรา ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ 1-10 ยิ่งมีค่ามากยิ่งแสดงว่า google ให้ความสำคัญมาก ค่านี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของเว็บ และคุณภาพของ Link ที่เข้ามาหาเว็บ
  20. Traffic หมายถึง ปริมาณผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ที่ทำ SEO ก็เพื่อเพิ่มตรงนี้ละ

 

Social Media & SME Brand Building

สรุปจากการฟัง

Social Media & SME Brand Building

Social Media    ไม่จำเป็นต้องออนไลน์อย่างเดียว ความจริง Social media ที่ไม่ออนไลน์ใช้กันมีมากมาย เช่น กัน เช่นพูดกันปากต่อปาก

โดย media มี 4 ประเภท

1. ไอเท็นมีเดีย คือเป็น media ที่ตัวประกอบการเป็นเจ้าของพวกนี้ได้แก่ เว็บไซต์ block พวกนี้จะเป็นสื่อที่เรียกว่าเป็นสื่อของเราเอง

2. เพจมีเดีย จะป็นสื่อที่เราต้องเสียเงินซื้อพวกนี้จะอยู่ไหนพวกเบนเนอร์

3.อินเท็มมีดีย พวกนี้จะเป็นมีเดียลูกค้า ผู้บริโภค customer ทั่วไปเป็นเจ้าของ เช่น face book

4. Social Media หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร

Media แต่ละประเภทจะมีบทบาท ประโยนช์มีความท้าทายมีการประยุกต์ในงานที่แตกต่างกัน

Always on control

                ถ้าชอบแล้วไม่มีการบอกต่อก็แปลว่า ล้มเหลว จะทำให้ตลาดเล็กลง social network

การสร้างดึงดูดให้กับลูกค้า

– Connext คือ การเข้าถึงลูกค้า

– Information คือ การให้ข้อมูลแก่ลูกค้า

-Entertain คือ บอกถึงความรู้สึกของตนเอง

แชร์ นั้นก็หมายความว่า ทำทุกอย่างให้เกิดคำว่า บอกต่อ

ในแต่ล่ะยุค 

มีการเปลี่ยนแปลงของแบนอย่างไร ใน เชิงการตลาด

ยุคแรก ซื้อมาขายไป

ยุค 2 ทำให้การตลาดให้ความสำคัญในเรื่อง รีเลชั่น 1 on 1

ยุค 3 money 2 money รวมกลุ่มช่วยกันทำการตลาด

โอฟิเอส คือ ปัจจุบันลูกค้าจะบอกว่าสินค้าใหม่จะเอาอะไรดี เช่น การทำธุรกิจเสื้อยืด เขาจะให้ลูกค้าออกแบบลายให้

โอฟิเอส ช่วย Brand ได้อย่างไร

  1. Product Innovation หมายถึง นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตขึ้นในเชิงพาณิชย์ที่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือเป็นสิ่งใหม่ ในตลาด นวัตกรรมนี้อาจจะเป็นของใหม่ต่อโลก ต่อประเทศ องค์กร หรือแม้แต่ตัวเราเอง
  2. Relationship Marketing คือ การตลาดแบบมีความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า หรือการแลกเปลี่ยนไอเดีย
  3. Service Marketing หมายถึง การตลาดบริการ กิจกรรมหรือผลประโยชน์ที่บุคคลหนึ่งเสนอแก่อีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคือไม่ สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ หรือความต้องการของลูกค้า
  4. customer knowledge management หมายถึง การจัดการความรู้ เกี่ยวกับการวิจัย
  5. managing communities of creation หมายถึง ช่างคิดชอบเสนอไอเดีย เอาไอเดียไหม่ ๆ มาให้
  6. Strategy development หมายถึง แนวทางที่องค์กรใช้เตรียมการสําหรับอนาคตซึ่งอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ในการคาดการณ์พยากรณ์ทางเลือก  เพื่อช่วยในการพัฒนาองค์กร

สรุป  Content is king

คนเป็นเจ้าของประเทศถ้าไม่ใส่ใจกับคนอยู่ไม่ได้

ต้องสร้างแบนให้เกิดความสำเร็จในยุคของ social media ให้ได้  ถ้าปลี่ยนจาก Consumer เป็น fans ไม่ได้จะไม่มีการแชร์ ไดอะร็อกจะไม่มีการช่วย โซเซีย ไดอะร็อก แชร์

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

คำศัพท์ 20 คำ

Social Media & SME Brand Building

  1. Social หมายถึง สังคมออนไลน์
  2. Media หมายถึง เนื้อหา เรื่องราว และบทความ
  3. Social Media หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่า เนื้อหา เรื่องราว ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวิดีโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตน ผ่านทางเว็บไซต์ Social Network ที่ให้บริการบนโลกออนไลน์  ปัจจุบัน การสื่อสารแบบนี้ จะทำผ่านทาง Internet และโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
  4. Consumer  หมายถึง   ผู้บริโภค  สิ่งมีชีวิตที่กินสิ่งมีชีวิตอื่นๆเป็นอาหาร
  5. Conversations หมายถึง การสนทนาซึ่งมีการโต้ตอบ เช่น เล่น face book
  6. Transparency หมายถึง ความโปร่งใสในการดำเนินงานที่สามารถตรวจสอบได้
  7. Collaboration หมายถึง ความร่วมมือหรือความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นของการบริหารโซ่อุปทาน
  8. Product Innovation หมายถึง นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตขึ้นในเชิงพาณิชย์ที่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือเป็นสิ่งใหม่ ในตลาด นวัตกรรมนี้อาจจะเป็นของใหม่ต่อโลก ต่อประเทศ องค์กร หรือแม้แต่ตัวเราเอง
  9. Relationship Marketing คือ การตลาดแบบมีความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า หรือการแลกเปลี่ยนไอเดีย
  10. Service Marketing หมายถึง การตลาดบริการ กิจกรรมหรือผลประโยชน์ที่บุคคลหนึ่งเสนอแก่อีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคือไม่ สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ หรือความต้องการของลูกค้า
  11. customer knowledge management หมายถึง การจัดการความรู้ เกี่ยวกับการวิจัย
  12. managing communities of creation หมายถึง ช่างคิดชอบเสนอไอเดีย เอาไอเดียไหม่ ๆ มาให้
  13. strategy development หมายถึง แนวทางที่องค์กรใช้เตรียมการสําหรับอนาคตซึ่งอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ในการคาดการณ์พยากรณ์ทางเลือก  เพื่อช่วยในการพัฒนาองค์กร
  14. Share  หมายถึง ส่วน ส่วนแบ่ง ส่วนร่วม หุ้นส่วน ใช้ร่วมกัน มีส่วนแบ่ง รับผิดขอบร่วมกันร่วมกันทำ  อันนี้เข้าใจกันดีในฐานะที่เป็นลูกแชร์
  15. Dialogue หมายถึง เป็นการรับฟังวิธีคิด วิธีการให้คุณค่า ความหมายของคนอื่นต่อสิ่งที่พูด เพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ละทิ้งสิ่งที่แต่ละคนยึดถือ เพื่อผ่าข้ามพรมแดนแห่งตัวตนไปพร้อมๆกัน
  16. Social Network คือ สังคมออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณหาเพื่อนบนโลกอินเตอร์เนทได้ง่ายๆ เราสามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา เพื่อแนะนำตัวเองได้ เช่นHi5  Friendster , My Space , Face Book ,  Orkut , Bebo
  17. Innovation หมายถึง การนำสิ่งใหม่ ๆ อาจเป็นแนวความคิด หรือ สิ่งประดิษฐ์ใหม่
  18. Co-creation หมายถึง การให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการที่จะพัฒนาสินค้า
  19. Content is King  หมายถึง ทำเว็บ ทำเนื้อหาให้คนอ่าน สื่อสารกับคนที่อยู่อีกฟากหนึ่ง ของ Monitor ที่เปิดหน้า webpage ของเรา เข้ามาอ่านเนื้อหาเรา เป็นชั่วโมงๆ
  20.  Brand หมายถึง ตราสินค้า ชื่อ ข้อความ สัญลักษณ์หรือรูปแบบหรือสิ่งเหล่านี้รวมกัน เพื่อบ่งชี้ให้เห็นถึงสินค้า หรือบริการของผู้ขายหรือกลุ่มของผู้ขายที่แสดงความแตกต่างจากคู่แข่งขันตราสินค้าหนึ่ง ๆ จะประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน

 

เว็บไซต์รูปแบบ E-business

ระบบออนไลน์หรือ B2B

http://www.value.co.th/th/main.asp

ลักษณะธุรกิจ

          บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด ก่อตั้งโดยนายณรงค์ อิงค์ธเนศ ประธานบริหาร เมื่อปี พ.ศ. 2531 เพื่อดำเนินธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าด้านไอทีชั้นนำ อาทิ ไมโครซอฟท์ ฮิวเลตต์-แพคการ์ด และซีเกท ในปี พ.ศ. 2542 บริษัทฯ ได้นำระบบออนไลน์หรือ B2B มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ และสามารถดำเนินธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ได้ นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้เปิดศูนย์บริการทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึงให้การสนับสนุนด้านการบำรุงดูแลรักษาระบบเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าผ่านทาง 3 สาขาในกรุงเทพฯ และอีก 9 สาขาในต่างจังหวัดซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้แก่ หนองคาย ระยอง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่น นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ตและพิษณุโลก

ในปี 2544 บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจไปสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายแบบเพิ่มมูลค่า (Value Added Distribution Company) โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลักคือ

1. Distribution การจัดจำหน่ายสินค้าไอที สินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ เดสก์ทอปพีซี โน้ตบุ๊ค พรินเตอร์ แอลซีดี พีดีเอ เป็นต้น

2. Enterprise Solutions การให้บริการด้านการออกแบบ ติดตั้ง และอิมพลิเมนต์ระบบโครงสร้างพื้นฐานให้กับองค์กรที่ต้องการดำเนินงานด้านพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ สินค้าในกลุ่มนี้ ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่สำหรับองค์กร เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กสำหรับหน่วยงาน ระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์แอพพลิเคชันสำหรับการทำพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ด้านไอทีเพื่อการจัดการระบบ และระบบรักษาความปลอดภัยจากผู้ผลิตชั้นนำ เป็นต้น

3. ICT Services การให้บริการด้านไอที ประกอบด้วยการออกแบบโครงสร้างระบบเครือข่ายและการอิมพลิเมนท์ระบบรักษาความปลอดภัย การอินทริเกรทระบบการให้บริการเว็บไซต์ การออกแบบและอิมพลิเมนท์โครงสร้างสำเร็จรูปเพื่อการใช้งานระบบพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ การให้บริการฝึกอบรมและบริการซ่อมบำรุงรักษา (MA) เป็นต้น

มีกลยุทธ์ทางการตลาด

มีการวางยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่ชัดเจน

บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะขยายส่วนแบ่งทางการตลาดและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายยิ่งขึ้น โดยทางบริษัทฯ ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตสินค้าไอทีชั้นนำ อาทิ แอปเปิลคอมพิวเตอร์, อัสซุสเทค, เบนคิว, ซิสโก, ฮิวเลตต์-แพคการ์ด, ไอบีเอ็ม, เลอโนโว, ไมโครซอฟท์, ออราเคิล และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อขยายสายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ทุกกลุ่ม

ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินธุรกิจ

เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการบริการแก่ดีลเลอร์ให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ในเดือนพฤศจิกายน 2541 ที่ผ่านมา บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ “Value Online” (หรือชื่อในปัจจุบัน คือ “ECS Online Express”) ขึ้น สำหรับดีลเลอร์ทั่วประเทศไทยให้สามารถสั่งซื้อสินค้าและขอรับบริการข้อมูลแบบออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ทได้อย่างฉับไว

เป็นพันธมิตรการจัดจำหน่ายในระดับภูมิภาค

ในเดือนพฤศจิกายน 2541 บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด และบริษัทผู้ค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่อีก 2 บริษัทในสิงคโปร์และมาเลเซีย คือ บริษัทอีซีเอส คอมพิวเตอร์ (สิงคโปร์) จำกัด และบริษัทเค.ยู. ซิสเต็มส์ (มาเลเซีย) จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือในการจัดตั้งบริษัทอีซีเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด หรืออีซีเอสเอช โดยมีบริษัทแนทสตีล อิเล็คทรอนิกส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์รายใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ต่อมาอีซีเอสเอชได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2545 หลังจากนั้น โซเลคตรอน ผู้ผลิตไอทีรายใหญ่ระดับโลกได้เข้ามาถือหุ้นในแนทสตีล ส่งผลให้ ณ ปัจจุบันนี้โซเลคตรอนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในอีซีเอสเอชแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาอีซีเอสเอชก็ได้พันธมิตรเพิ่มอีก 2 ราย คือ บริษัทพีซีไอ (ประเทศจีน) จำกัด ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทอีซีเอส (ประเทศจีน) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจีน และต่อมายังได้ร่วมลงทุนกับบริษัทแฮริสมาอากุงจายา จำกัด ตั้งบริษัทอีซีเอส อินโด จำกัด ขึ้น และล่าสุดยังได้เข้าถือหุ้นจำนวน 49% ในบริษัทเอ็มเอสไอ-ดิจิแลนด์ ฟิลิปปินส์ จำกัด ของประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เอ็มเอสไอ-อีซีเอส ฟิลส์ จำกัด” ปัจจุบันบริษัทอีซีเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด มีเครือข่ายอยู่ใน 7 ประเทศ คือ จีน ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม นับเป็นบริษัทค้าส่งสินค้าไอทีชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคนี้ด้วยเครือข่ายการจัดจำหน่ายกว่า 21,400 ราย

รูปแบบการให้บริการ

1. บริการ Professional IT System Servic

  • รับจัดวางระบบงานและรับติดตั้งเครือข่ายทั้งระบบ Lan/Wan
  • รับจัดวางระบบ Internet Security หรือติดตั้งกล้องวงจรปิด
  • บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางระบบในรูปแบบองค์กรและแบบ Home use
  • รับบำรุงรักษาระบบ โดยทำสัญญาแบบ Outsourcing Service
  • การบำรุงรักษา (Preventive Maintenance) เป็นรายครั้งหรือรายปี
  • รับติดตั้งระบบและให้คำปรึกษา Network ต่าง ๆ

 

2. บริการ Professional In and Out Warranty Repairing

  • บริการซ่อมสินค้าทั้งในและนอกสถานที่ทั่วประเทศ
  • บริการซ่อมสินค้าที่อยู่ในระยะประกันฟรี ไม่ว่าจะเป็น PC, Notebook, Printer, Plotter, Projector, UPS เป็นต้น
  • บริการซ่อมสินค้าที่หมดระยะประกัน

3. บริการ Spare part

  • ขายอะไหล่แท้จากผู้ผลิต เช่น HP Compaq, NEC, EPSON, Brother, Apple, BenQ เป็นต้น
4. บริการ Counter Service และ On Site Service

  • บริการรับซ่อมเครื่องตามสาขาทั่วประเทศ โดยจะให้บริการแบบ Counter Service
  • บริการรับซ่อมนอกสถานที่ สำหรับสินค้าที่อยู่ในระยะรับประกันและนอกประกัน สำหรับอุปกรณ์ PC Notebook Printer Plotter Projector
  • การบำรุงรักษา (Preventive Maintenance) เป็นรายครั้งหรือจะทำเป็นสัญญารายปี ทั้งในรูปแบบองค์กร แบบ Home use หรือติดตั้งเป็นจำนวนมาก ๆ ทั่วประเทศ

5. บริการเช่า/ใช้เครื่องพิมพ์

  • รับติดตั้งและให้บริการเครื่องถ่ายเอกสารหรือ Multifunction Printer ของ HP

6. บริการ Customer Support อื่น ๆ ได้แก่

  • จัดฝึกอบรมทางด้านเทคนิค
  • บริการให้คำปรึกษา ถาม-ตอบ แก้ไขปัญหาด้านการใช้งาน ทั้งทางโทรศัพท์ อี-เมล์ และแฟกซ์

จุดแข็ง

–           เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่นำระบบ E-Business (B2B) มาใช้ในธุรกิจค้าส่ง (โดยได้เปิดตัวระบบออนไลน์สำหรับดีลเลอร์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2541)

–           ได้รับการคัดเลือกจากพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (Business Software Alliance) หรือ BSA ให้เป็น 1 ใน 2 บริษัทชั้นนำในไทยที่ประสบความสำเร็จในการนำระบบอีคอมเมิร์ซมาใช้ในธุรกิจ

–           ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสาร CIO Magazine ให้เป็น 1 ใน 3 บริษัทไทยที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบบริหารการขาย (Sales Information Management) สำหรับใช้ภายในบริษัท

–           ได้รับการคัดเลือกจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ให้เป็น 1 ใน 7 บริษัทเด่นของประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นยุทธศาสตร์ในการขยายโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยจัดพิมพ์ในหนังสือ “e-Commerce ในธุรกิจจริง

จุดอ่อน

–           เป็นเว็บที่มีข้อมูลมีการอัพเดชข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

–           อาจจะติดต่อกับผู้ให้บริการค่อยข้างยาก

ค่า pr 5

ปัจจัยต่าง ๆ ของการทำ SEO

ปัจจัยต่าง ๆ ของการทำ SEO

ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ On-Page Factor และ Off-Page Factor

On-Pages Factor คือ ทุกสิ่งที่ Search Engine สามารถมองเห็นจากเว็บไซต์  ซึ่งเป็นปัจจัยภายใน เช่น
เนื้อหา หัวเรื่อง การเชื่อมโยง  เป็นต้น เหมือนกับที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้จากโปรแกรม Text Browser
ซึ่งในการทำ On-Page Factor ควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้

– ที่ Title Tag ควรใส่คำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายในหน้าเอกสารนั้น ๆ เช่น ถ้าเนื้อหาของหน้าเว็บนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกร้อน ควรใช้ Title ว่า “โลกร้อน”
– ควรวางขอบเขตของเนื้อหาในเอกสารแต่ละหน้า เช่น ถ้าต้องการเขียนเรื่องข้อมูลภาพยนตร์ ก็ไม่ควรให้มีข้อมูลอื่น ๆ เช่น เล่นเกม ฟังเพลง ปนอยู่
– การสร้าง Links ควรเชื่อมโยงไปที่หน้าเอกสาร ที่เกี่ยวกับข้อความที่ปรากฎใน Links เช่น
การทำ HyperLinks ที่ข้อความว่า “ภาพยนตร์” ก็ควร Links ไปในหน้าที่มีข้อมูลภาพยนตร์ ไม่ควร Link ไปในหน้าที่มีเนื้อหาอื่น ๆ เช่น เนื้อเพลง หรือ กลอน
– พยายามจัดกลุ่มของเนื้อหา และการเชื่อมโยงต่าง ๆ ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย
– พยายามตั้งชื่อไฟล์ให้สอดคล้องกับหัวข้อของเนื้อหาภายในหน้าเอกสาร

Off-Pages Factor คือ สิ่งต่าง ๆ ที่ Search Engine ไปพบเจอมา ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฎอยู่ในหน้าเอกสารเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยภายนอกดังเช่น
– การทำ Sitemap
– การเพิ่ม Link Popularity
– การเพิ่มรายชื่อเว็บไซต์ใน Directory Listing
– การทำ Social Networking

สรุป On-Page Factor คือ การ Optimisation เนื้อหาภายในหน้าเว็บให้มีความเหมาะสมกับการทำ SEO (หลาย ๆ คนบอกว่าเป็นปัจจัยภายใน) ส่วน Off-Page Factor คือ การ Optimisation สิ่งที่ไม่ใช่เนื้อหาของเว็บไซต์ (หลาย ๆ คนบอกว่าเป็นปัจจัยภายนอก) ซึ่งปัจจัยทั้งสองนี้มีความสำคัญทั้งคู่ ควรปรับแต่งให้เหมาะสมไปพร้อม ๆ กันครับ

อ้างอิงข้อมูล http://seo.siamsupport.com/blog/on-page-off-page-factor/

โปรแกรมที่ใช้ทำData Mining …..

….โปรแกรม WEKA….

          โปรแกรม Weka (Waikato Environment for Knowledge Analysis) : เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 1997 โดยมหาวิทยาลัย Waikato ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นซอฟต์แวร์สาเร็จ ภาพประกอบประเภทฟรีแวร์ อยู่ภายใต้การควบคุมของ GPL License ซึ่งโปรแกรม Weka ได้ถูกพัฒนามาจากภาษาจาวาทั้งหมด ซึ่งเขียนมาโดยเน้นกับงานทางด้านการเรียนรู้ด้วยเครื่อง (Machine Learning) และ การทาเหมืองข้อมูล (Data Mining) โปรแกรมจะประกอบไปด้วยโมดูลย่อย ๆ สาหรับใช้ในการจัดการข้อมูล และเป็นโปรแกรมที่สามารถใช้ Graphic User Interface (GUI) และ ใช้คาสั่งในการให้ซอฟต์แวร์ประมวลผล และสามารถรัน (run) ได้หลายระบบปฏิบัติการ และสามารถพัฒนาต่อยอดโปรแกรมได้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ทางานในด้านการทาดาต้าไมน์นิ่งที่รวบรวมแนวคิดอัลกอริทึมมากมาย ซึ่งอัลกอริทึมสามารถเลือกใช้งานโดยตรงได้จาก 2 ทางคือจากชุดเครื่องมือที่มีอัลกอริทึมมาให้ หรือเลือกใช้จากอัลกอริทึมที่ได้เขียนเป็นโปรแกรมลงไปเป็นชุดเครื่องมือเพิ่มเติม และชุดเครื่องมือมีฟังก์ชันสาหรับการทางานร่วมกับข้อมูล ได้แก่ Pre-Processing, Classification, Regression, Clustering, Association rules, Selection และ Visualization

โลโก้ของซอฟต์แวร์วีก้าเป็นรูปนกเฉพาะถิ่นของประเทศนิวซีแลนด์

              ข้อดีของซอฟต์แวร์วีก้า

  • เป็นซอฟต์แวร์เสรีที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
  •  สามารถทางานได้ทุกระบบปฏิบัติการ
  • เชื่อมต่อ SQL Database โดยใช้ Java Database Connectivity
  •  มีการเตรียมข้อมูลและเทคนิคในการสร้างแบบจาลองที่ครอบคลุม
  •  มีลักษณะที่ง่ายต่อการใช้งานเนื่องจากใช้

              ความสามารถของซอฟต์แวร์วีก้า

  •  สนับสนุนเกี่ยวกับการทาเหมืองข้อมูล (Data Mining)
  • การเตรียมข้อมูล (Data Preprocessing)
  •  การทาเหมืองข้อมูลด้วยเทคนิคการจาแนกข้อมูล (Classification)
  • การทาเหมืองข้อมูลด้วยเทคนิคการจัดกลุ่ม (Clustering)
  •  การทาเหมืองข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ (Associating)
  •  เทคนิคการคัดเลือกข้อมูล (Selecting Attributes)
  •  เทคนิคการนาเสนอข้อมูลด้วยรูปภาพ (Visualization)

สรุปข้อดี

        ของโปรแกรม WEKA คือ มีอัลกอริทึมที่รู้จักกันดีของการทาดาต้าไมน์นิ่งให้เลือกใช้อย่างครบถ้วน และสามารถเขียนฟังก์ชันเพิ่มเข้าไปในโปรแกรมเองได้

ข้อเสีย

           ยังไม่แน่ใจนัก แต่จะวัดคุณภาพของวิธีกับ accuracy ที่ได้มากกว่า เพราะในทาง
ปฏิบัติจริง บางข้อมูลใช้วิธี Apriori จะใหค้วามเที่ยงตรงสูงกว่าใช้FP-Tree บางข้อมูล ใช้ วิธี FP-tree กจ็ะให้
ความเที่ยงตรงสูงกว่า Apriori
ดังนั้น ในทางปฏิบัติต้องเอา Model ที่ได้มา Evaluated เพื่อ เลือก วิธีที่เหมาะสม
การเตรียมแฟ้มข้อมูล

  • กำหนดลักษณะประจำเป้าหมายให้เป็นลักษณะประจำสุดท้าย
  •  บางขั้น ตอนวิธีใช้สร้างต้นไม้การตัดสินใจต้องการลักษณะประจำที่มีค่าไม่ต่อเนื่องเท่านั้น ดังนั้น
  • เราจำเป็นต้องเปลี่ยนลักษณะประจำที่มีค่า ต่อเนื่องให้เป็นลักษณะประจำที่มีค่าไม่ต่อเนื่อง
  •  ในกรณีที่มีระเบียนน้อย เราอาจใช้k-fold cross validation หรือleave-one-out
  • ในกรณีที่มีระเบียนมากพอเราควรแบ่ง กันระเบียนบางส่วนเป็น Validation, Test data และที่
  • เหลือนำมาใช้เป็น Training data สัดส่วนที่ใช้อาจเป็น 3/10, 3/10กับ4/10 

 

 

….โปรแกรม orange canvas….

              แหล่งที่มาของการสร้างภาพเปิดและวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญการทำเหมืองข้อมูลผ่านทางภาพเขียนโปรแกรมหรืองูหลามสคริปต์ ส่วนประกอบสำหรับการเรียนรู้เครื่อง Add-ons สำหรับชีวสารสนเทศและการเหมืองแร่ข้อความ เต็มไปด้วยคุณสมบัติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล

ข้อดี

  • ทำให้การเชื่อมต่อง่ายยิ่งขึ้น
  • ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับมือใหม่ได้ง่ายขึ้น

ข้อเสีย

  • ถ้าเชื่อต่อไม่ดีอาจทำให้การเชื่อต่อผิดพลาดได้

 

 

….โปรแกรม MATLAB….

    MATLAB เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง เพื่อใช้ในการคำนวณทางเทคนิค MATLABได้รวมการคำนวณ การเขียนโปรแกรมและการแสดงผลรวมกันอยู่ในตัวโปรแกรมเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ในลักษณะที่ง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ลักษณะของการเขียนสมการในโปรแกรมก็จะเหมือนการเขียนสมการคณิตศาสตร์ งานที่ทั่วไปที่ใช้ MATLAB เช่น การคำนวณทั่วไปการสร้างแบบจำลองและการทดสอบแบบจำลอง การวิเคราะห์ข้อมูล การแสดงผลในรูปกราฟโดยทั่วไปและกราฟทางด้านทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม สามารถสร้างโปรแกรมในลักษณะที่ติดต่อกับผู้ใช้ทางกราฟฟิกส์ การทำงานของ MATLAB จะสามารถทำงานได้ทั้งในลักษณะของการติดต่อโดยตรง(Interactive)คือการเขียนคำสั่งเข้าไปทีละคำสั่ง เพื่อให้ MATLAB ประมวลผล หรือสามารถที่จะรวบรวมชุดคำสั่งเป็นโปรแกรมก็ได้

ข้อสำคัญอย่างหนึ่งของ MATLAB ก็คือข้อมูลทุกตัวจะถูกเก็บในลักษณะของ arrayคือในแต่ละตัวแปรจะได้รับการแบ่งเป็นส่วนย่อยเล็กๆขึ้น ซึ่งการใช้ตัวแปรเป็น array ในMATLABไม่จำเป็นที่จะต้องจอง dimension เหมือนกับการเขียนโปรแกรมในภาษาขั้นต่ำทั่วไป ซึ่งทำให้สามารถที่จะแก้ปัญหาของตัวแปรที่อยู่ในลักษณะของ matrix และ vector ได้โดยง่าย

ข้อดี

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานโปรแกรม MATLAB อาจสงสัยว่าโปรแกรม MATLAB มีข้อดีอย่างไร ทำไมถึงไม่ใช้งานภาษาโปรแกรมอื่นๆ และแตกต่างจากโปรแกรมภาษาอื่นๆ อย่างไร ดังนั้นในหัวข้อนี้จึงได้จำแนกลักษณะเด่นที่ง่ายต่อการใช้งานของโปรแกรม MATLAB ดังนี้ คือ

  • มีฟังก์ชันคณิตศาสตร์ให้เลือกใช้ในการคำนวณมากมายตลอดจนเราสามารถสร้างฟังก์ชันขึ้นมาใช้งานได้เองในสาขาที่ต้องการ โดยฟังก์ชันที่สร้างขึ้น (M-File) จะมีนามสกุลเป็น .M
  • Algorithm พัฒนาได้ง่ายไม่ยุ่งยาก สามารถแก้ไขปัญหาทางด้วนคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อนได้ง่าย และรวดเร็วกว่าโปรแกรมภาษาอื่นๆ เช่น C Fortran Basic เป็นต้น
  • มีโครงสร้างแบบจำลอง (Simulink) ซึ่งเป็น Package ที่เรานำไปสร้างบล็อกไดอะแกรมเพื่อใช้ทดสอบ และประเมินผลระบบ Dynamic ต่างๆ ก่อนนำไปใช้งานจริง
  • สามารถวิเคราะห์และตรวจสอบข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
  • นำไปใช้งานในทางด้วนกราฟิกได้เป็นอย่างดีทั้งในด้านการแสดงภาพตั้งแต่สองมิติที่เป็น rectangular polar stair bar รวมทั้งภาพสมมิติในรูปแบบพื้นผิว (surface) และระดับสูงต่ำ (contour) ตลอดจนสามารถนำภาพมาต่อกัน และเก็บไว้เพื่อที่จะสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย
  • ประยุกต์ใช้ในการสร้างรูปแบบ Graphical User Interface ได้โดยการเลือกใช้ object และเมนูต่างๆ โดยโปรแกรม MATLAB จะมีเครื่องมือให้เลือกใช้ เช่น เมนู รายการ ปุ่มกด และ fields object ต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกนำไปใช้ในการทำงานปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
  • ทำการประมวลผลร่วมกับโปรแกรมอื่นได้ เช่น Fortran, Borland C/C++, Microsoft Visual C++ และ Watcom C/C++ ด้วยการเขียนฟังก์ชันที่เป็น mex ไฟล์โดยโปรแกรม MATLABจะเรียกใช้รูทีนจากโปรแกรมภาษา C และ Fortran
  • โปรแกรม MATLAB เป็นระบบ interactive ซึ่งส่วนของข้อมูลพื้นฐานเป็นอาร์เรย์ที่ไม่ต้องการมิติ ทำให้โปรแกรม MATLAB สามารถทำการแก้ปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ได้มากใช้เวลาในการประมวลผลน้อย และดีกว่าโปรแกรมภาษา C และ Fortran

ข้อเสีย

  • คือฟังก์ชันที่นำมาใช้งานมีน้อยทำให้เขียนโปรแกรมที่มีความซับซ้อนได้ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะมีประสิทธิภาพและความเร็วในการประมวลผลต่ำ